วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

สถานการณ์ในประเทศยูเครนเริ่มดีขึ้น มีผู้อพยพทยอยกลับบ้านแล้วเกือบ 40,000 ราย

       เอเจนซีส์ – ทางการยูเครนเผยในวันจันทร์ (15 ก.ย.) ระบุ ประชาชนเกือบ 40,000 คนที่อพยพหนีการสู้รบในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับสู่บ้านเรือนของตนแล้ว
       
       รายงานข่าวซึ่งอ้างเซอร์เก บอชคอฟสกี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนระบุว่าในจำนวนผู้อพยพหนีภัยการสู้รบเกือบ 40,000 คนที่ทยอยเดินทางกลับสู่บ้านเรือนของตนดังกล่าวนั้น มีอยู่ราว 23,400 คนที่กลับจากการเดินทางไปลี้ภัยในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ รองลงมาคือผู้อพยพที่หนีภัยการสู้รบไปอยู่ในเขต “คาร์คอฟ” ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเขต “โอเดสซา” ทางภาคใต้ ขณะที่ยอดรวมของผู้อพยพภายในประเทศของยูเครนมีทั้งหมดราว 269,000 คน
       
       อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของทางผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนนั้น ไม่มีการกล่าวถึงผู้อพยพชาวยูเครนจำนวน “มากกว่า 830,000 คน” ที่เดินทางเข้าไปลี้ภัยอยู่ในรัสเซียแต่อย่างใด
       
       ด้านอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชวิช โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ออกมาแถลงตอบโต้ข้อมูลล่าสุดของทางการยูเครนเกี่ยวกับการเดินทางกลับบ้านของบรรดาผู้อพยพหนีภัยการสู้รบ โดยระบุว่าข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและเป็นเพียงการ “โฆษณาชวนเชื่อ” ของรัฐบาลเคียฟให้ประชาคมโลกเห็นว่า สถานการณ์ในยูเครนเริ่มดีขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธที่มีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซีย ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนยังคงดำเนินต่อไปโดยเฉพาะในเขต “โดเนตสก์” และ “ลูกานสก์”
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 5 กันยายนผู้แทนจากรัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างการเจรจาที่กรุงมินส์กของเบลารุส
       
       โดยคู่ขัดแย้งตกลงให้มีการถอนกำลังทหารรวมถึงการแลกเปลี่ยนเชลยศึก ตลอดจนการเปิดทางให้กับการขนส่งลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังพื้นที่สู้รบ 
ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น