Picture From http://en.wikipedia.org/wiki/Malaysia_Airlines_Flight_370#mediaviewer/File:Boeing_777-200ER_Malaysia_AL_(MAS)_9M-MRO_-_MSN_28420_404_(9272090094).jpg
ปฎิบัติการค้นหาเริ่มต้นอีกครั้งในเดือนกันยายนด้วยมูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์เป็นเวลา 12 เดือนที่นำโดยเจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย หลังจากการสูญหายอย่างไร้ร่องรอยร่วม 5 เดือนของMH370 โดยรองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย วอร์เรน ทรูซซ์ (Warren Truss) ยืนยันเดินหน้าเฟสการค้นหารอบต่อไปถึงแม้ความหวังที่จะพบเหลือน้อยเต็มที
ปฎิบัติการค้นหารอบต่อไปของ MH370 ได้ถูกกำหนดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งหน่วยงานออสเตรเลียที่เป็นผู้นำทีมการค้นหาในอีก 12เดือนข้างหน้า ซึ่งจะใช้ยานสำรวจใต้น้ำสแกนพื้นที่ใต้มหาสมุทรราว 60,000 ตรกม. หรือมีขนาดเท่ากับเกาะแทสมาเนีย ในมหาสมุทรอินเดียใต้ นอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย
“เราสงสัยว่าเราจะสามารถพบซากเครื่องบินในบริเวณจุดค้นหา” รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย วอร์เรน ทรูซซ์ (Warren Truss)ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(5)
ปฎิบัติการค้นหารอบต่อไปของ MH370 ได้ถูกกำหนดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งหน่วยงานออสเตรเลียที่เป็นผู้นำทีมการค้นหาในอีก 12เดือนข้างหน้า ซึ่งจะใช้ยานสำรวจใต้น้ำสแกนพื้นที่ใต้มหาสมุทรราว 60,000 ตรกม. หรือมีขนาดเท่ากับเกาะแทสมาเนีย ในมหาสมุทรอินเดียใต้ นอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย
“เราสงสัยว่าเราจะสามารถพบซากเครื่องบินในบริเวณจุดค้นหา” รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย วอร์เรน ทรูซซ์ (Warren Truss)ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(5)
Picture From http://en.wikipedia.org/wiki/Warren_Truss#mediaviewer/File:Warren_Truss_at_a_National_Party_candidate_campaign_launch.jpg
การค้นหารอบใหม่จะใช้เรือลากยานใต้น้ำสำรวจพื้นที่มหาสมุทรที่ติดอุปกรณ์โซนาร์แบบกวาดด้านข้าง และเครื่องโซนาร์จะส่งข้อมูลกลับไปยังเรือเพื่อให้เจ้าหน้าที่บนฝั่งทำการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น ในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำนักงานกลางควบคุมความปลอดภัยออสเตรเลีย (ATSB)ได้ทำการสำรวจแบบBathymetric Surveyเพื่อจัดทำแผนที่พื้นใต้ทะเลในบริเวณค้นหาจำนวน 32,000 ตรกม.จากทั้งหมด 60,000 ตรกม. ซึ่งเท่ากับว่าแผนที่ของพื้นที่ใต้มหาสมุทรขนาดกว้าง 80กม.*ยาว700กม.ได้ถูกจัดทำขึ้น
มาร์ติน โดแลน (Martin Dolan)หัวหน้าATSBแถลงว่า Bathymetric Surveyนั้นเป็นก้าวสำคัญก่อนเร่มต้นปฎิบัติการค้นหาใต้ผิวน้ำ ซึ่งการสำรวจประเภทนี้จะแสดงให้เห็นถึงภูมิประเทศใต้มหาสมุทรที่ประกอบไปด้วยภูเขาไฟใต้น้ำ หุบเขาลึกมีความลาดชัน และที่ราบเชิงเนินที่อาจจะทำให้สังเกตเห็นชิ้นส่วนเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สได้ยาก
และการค้นหารอบใหม่นี้จะเน้นไปยังบริเวณใกล้กับเส้นโค้งที่ 7 (7arc) ที่เริ่มจากแลตติจูด20 องศาใต้ไปจนถึง 39องศาใต้ ซึ่งมีการเชื่อมั่นว่า MH370ได้บินมาถึงจุดเส้นโค้งที่ 7นี้ และน้ำมันได้หมดลงและเริ่มตก จึงทำให้เหล่านักสำรวจต่างเชื่อมั่นว่าจุดตกของMH370นั้นอยู่ไม่ไกลจาก 38กม.ทางตะวันตก หรือ 55กม.ตะวันออกของเส้นโค้ง
รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้สัญญามูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทฟูโกร (Fugro)สัญชาติดัตช์ในปฎิบัติการค้นหา เรือฟูโกร อิเควเตอร์ และเรือฟูโกร ดิสคอฟเวอร์รี ทั้ง 2 ลำของบริษัทจะร่วมในการสำรวจ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางจากอังกฤษมายังออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียสัญญาที่จะรับผิดชอบวงเงิน 80-90 ล้านดอลลาร์ในปฎิบัติการการค้นหา MH370
ทรูซซ์ยืนยันว่าออสเตรเลียร่วมรับผิดชอบในการค้นหาครั้งนี้ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกประชาคมโลก แต่เขาย้ำว่า จะขอหารือกับตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย และรัฐบาลชาติอื่นๆในการร่วมแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และยังแสดงถึงความไม่แน่ใจว่าการค้นหา MH370 ต้องใช้ระยะเวลายาวนานอีกเท่าใด “แน่นอนเราหวังว่าจะพบ MH370ตั้งแต่วันแรก แต่ดูเหมือนอาจจะกินเวลานับปี” ทรูซซ์แถลง และย้ำว่าการค้นหารอบต่อไปของMH370ยังเป็นไปตามกำหนดเดิม และไม่มีผลกระทบต่อเคส MH17ที่ถูกยิงตกในยูเครนตะวันออก “แน่นอนว่ารัฐบาลมาเลย์ต้องแก้ปัญหากับเหตุการณ์เครื่องบินตกถึง 2เหตุการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่ต่างกัน” ทรูซซ์กล่าว
การค้นหารอบใหม่จะใช้เรือลากยานใต้น้ำสำรวจพื้นที่มหาสมุทรที่ติดอุปกรณ์โซนาร์แบบกวาดด้านข้าง และเครื่องโซนาร์จะส่งข้อมูลกลับไปยังเรือเพื่อให้เจ้าหน้าที่บนฝั่งทำการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น ในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำนักงานกลางควบคุมความปลอดภัยออสเตรเลีย (ATSB)ได้ทำการสำรวจแบบBathymetric Surveyเพื่อจัดทำแผนที่พื้นใต้ทะเลในบริเวณค้นหาจำนวน 32,000 ตรกม.จากทั้งหมด 60,000 ตรกม. ซึ่งเท่ากับว่าแผนที่ของพื้นที่ใต้มหาสมุทรขนาดกว้าง 80กม.*ยาว700กม.ได้ถูกจัดทำขึ้น
มาร์ติน โดแลน (Martin Dolan)หัวหน้าATSBแถลงว่า Bathymetric Surveyนั้นเป็นก้าวสำคัญก่อนเร่มต้นปฎิบัติการค้นหาใต้ผิวน้ำ ซึ่งการสำรวจประเภทนี้จะแสดงให้เห็นถึงภูมิประเทศใต้มหาสมุทรที่ประกอบไปด้วยภูเขาไฟใต้น้ำ หุบเขาลึกมีความลาดชัน และที่ราบเชิงเนินที่อาจจะทำให้สังเกตเห็นชิ้นส่วนเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สได้ยาก
และการค้นหารอบใหม่นี้จะเน้นไปยังบริเวณใกล้กับเส้นโค้งที่ 7 (7arc) ที่เริ่มจากแลตติจูด20 องศาใต้ไปจนถึง 39องศาใต้ ซึ่งมีการเชื่อมั่นว่า MH370ได้บินมาถึงจุดเส้นโค้งที่ 7นี้ และน้ำมันได้หมดลงและเริ่มตก จึงทำให้เหล่านักสำรวจต่างเชื่อมั่นว่าจุดตกของMH370นั้นอยู่ไม่ไกลจาก 38กม.ทางตะวันตก หรือ 55กม.ตะวันออกของเส้นโค้ง
รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้สัญญามูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทฟูโกร (Fugro)สัญชาติดัตช์ในปฎิบัติการค้นหา เรือฟูโกร อิเควเตอร์ และเรือฟูโกร ดิสคอฟเวอร์รี ทั้ง 2 ลำของบริษัทจะร่วมในการสำรวจ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางจากอังกฤษมายังออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียสัญญาที่จะรับผิดชอบวงเงิน 80-90 ล้านดอลลาร์ในปฎิบัติการการค้นหา MH370
ทรูซซ์ยืนยันว่าออสเตรเลียร่วมรับผิดชอบในการค้นหาครั้งนี้ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกประชาคมโลก แต่เขาย้ำว่า จะขอหารือกับตัวแทนรัฐบาลมาเลเซีย และรัฐบาลชาติอื่นๆในการร่วมแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และยังแสดงถึงความไม่แน่ใจว่าการค้นหา MH370 ต้องใช้ระยะเวลายาวนานอีกเท่าใด “แน่นอนเราหวังว่าจะพบ MH370ตั้งแต่วันแรก แต่ดูเหมือนอาจจะกินเวลานับปี” ทรูซซ์แถลง และย้ำว่าการค้นหารอบต่อไปของMH370ยังเป็นไปตามกำหนดเดิม และไม่มีผลกระทบต่อเคส MH17ที่ถูกยิงตกในยูเครนตะวันออก “แน่นอนว่ารัฐบาลมาเลย์ต้องแก้ปัญหากับเหตุการณ์เครื่องบินตกถึง 2เหตุการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่ต่างกัน” ทรูซซ์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น