วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

รัฐยิวโดนสหรัฐฯ – UN “จวกแหลก” หลังประกาศแผน “เวนคืนที่ดิน” ปาเลสไตน์ครั้งใหญ่สุดในรอบ 30 ปี

       เอเอฟพี – อิสราเอลวานนี้ (1 ก.ย.) ถูกกดดันหนักจากหลายฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ชาติพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ภายหลังออกมาประกาศแผนเวนคืนที่ดินขนาด 2,500 ไร่จากชาวปาเลสไตน์ ในเมืองเบธเลเฮม ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง
       
       สหรัฐฯ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และอียิปต์ต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐยิวทบทวนตรึกตรองดูอีกครั้ง หลังอิสราเอลประกาศแผนเวนคืนเมื่อวันอาทิตย์ (31 ส.ค.) จนสร้างความโกรธแค้นให้แก่ชาวปาเลสไตน์ และบรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพชาวยิว ทั้งที่ข้อตกลงหยุดยิงระยะยาวระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เพิ่งมีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่วันก่อน
       
       กองทัพยิวระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลได้ตัดสินใจเวนคืนที่ดิน ภายหลังที่เมื่อเดือนมิถุนายน ได้เกิดเหตุสังหารวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คน ที่ถูกลักพาตัวไปจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งชาวอิสราเอลรู้จักกันในชื่อนิคม “กุช เอตไซออน”
       
       เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งระบุว่า “การประกาศครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่อิสราเอลทำมาแล้ว คือมีการวางแผนการตามที่รัฐบาลอนุมัติ และการเปิดประมูลโครงการก่อสร้าง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเป้าหมายในการเจรจาเพื่อจัดตั้งสองรัฐเคียงคู่กับปาเลสไตน์ ที่อิสราเอลวางเอาไว้”
       
       “เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลล้มเลิกการตัดสินใจ”
       
       ทั้งนี้ สหภาพยุโรป (อียู) เห็นว่า นโยบายของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ที่มุ่งขยายนิคมชาวยิวในดินแดนที่ชาวปาเลสไตน์ระบุว่าจะใช้จัดตั้งรัฐในอนาคตนั้นเป็น “การกระทำที่ผิดกฎหมาย” และสหรัฐฯ ชี้ว่าเป็น “อุปสรรคขัดขวางกระบวนการสันติภาพ” ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
       
       ทางด้านโฆษกของบัน คีมูน เลขาธิการยูเอ็นระบุว่า บันตื่นตกใจกับแผนการของอิสราเอล
       
       โฆษกผู้นี้ระบุว่า “การยึดครองดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ส่อแววว่าจะเป็นการถางทางเพื่อขยายนิคมชาวยิว ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ออกมาย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการขัดขวางแผนการจัดตั้งสองรัฐเคียงคู่กันอย่างแท้จริง”
      “เลขาธิการได้เรียกร้องให้อิสราเอลรับฟังเสียงเรียกร้องจากประชาคมนานาชาติ แล้วละเว้นการสร้างนิคมชาวยิว และยอมปฏิบัติพันธกรณีในกฎหมายระหว่างประเทศ…”
       
       อียิปต์ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยจนอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นผู้ปกครองฉนวนกาซาสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อนาน 50 วัน ก็ออกมาประณามแผนการของอิสราเอลเช่นกัน
       
       กระทรวงการต่างประเทศแดนไอยคุปต์ระบุในคำแถลงว่า “อิสราเอลกำลังทำเรื่องไม่สร้างสรรค์ การกระทำของประเทศนี้ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และจะส่งผลร้ายต่อกระบวนการสันติภาพ”
       
       แม้ว่า กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์จะไม่ได้กล่าวถึงการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา แต่ก็เน้นย้ำว่า แผนเวนคืนที่ดินในเขตเวสต์แบงก์ ที่อิสราเอลกำลังผลักดันจะเป็น “อุปสรรค” ต่อการจัดตั้งสองรัฐเคียงคู่กันของอิสราเอลและปาเลสไตน์
       
       ทางด้าน “องค์การนิรโทษกรรมสากล” ก็ออกมาตำหนิแผนของรัฐยิวเช่นกัน พร้อมกับชี้ว่า “ดูเหมือนจะเป็นการยึดครองดินแดนของชาวปาเลสไตน์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา”
       
       ฟิลิป ลูเธอร์ ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือกล่าวว่า “อิสราเอลจะต้องเลิกใช้กลยุทธ์การยึดครองดินแดนอย่างผิดกฎหมาย เพื่อจัดตั้งนิคมชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์เสียที”
       
       ปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้ใช้วิธีทางการทูตต่อต้านอิสราเอล ขณะที่บรรดานักรณรงค์เพื่อสันติภาพชาวยิวกล่าวว่า แผนการเวนคืนที่ดินครั้งนี้นับเป็นการยึดครองดินแดนปาเสลไตน์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น