วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มิชชันนารีสเปน ในไลบีเรียติดเชื้ออีโบลา รัฐบาบส่งเครื่องบินรับกลับประเทศ

Picture From  http://en.wikipedia.org/wiki/Ebola_virus_disease#mediaviewer/File:7042_lores-Ebola-Zaire-CDC_Photo.jpg
รัฐบาลสเปนเตรียมส่งเครื่องบินไปยังไลบีเรียเพื่อรับตัวมิชชันนารีสูงวัยผู้หนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” กลับมารักษาพยาบาลในบ้านเกิด กระทรวงกลาโหมแดนกระทิงดุแถลงเมื่อค่ำวานนี้(5)
       
       กระทรวงได้แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า เปโดร โมเรเนส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสเปน มีคำสั่งให้เตรียมเครื่องบินแอร์บัส A310 “พร้อมบุคลากรและเครื่องมือแพทย์” เพื่อส่งไปรับพลเมืองซึ่งเข้าไปทำงานในไลบีเรีย โดยคาดว่าเครื่องบินลำนี้จะพร้อมออกเดินทางได้ในเวลา 5.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (10.00 น. ตามเวลาในไทยวันนี้)
       
       กระทรวงกลาโหมไม่ได้ระบุวันเวลาที่ครูสอนศาสนาจะเดินทางกลับถึงแผ่นดินสเปน และไม่แจ้งด้วยว่า สถานพยาบาลแห่งใดจะถูกใช้เป็นที่ดูแลผู้ติดไวรัสมรณะซึ่งทำให้มีภาวะเลือดออกอย่างรุนแรงนี้
       
       มิเกล ปาฆาเรส มิชชันนารีโรมันคาทอลิกวัย 75 ปี ถูกตรวจพบเชื้ออีโบลาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมอนโรเวีย ตามข้อมูลซึ่งองค์กรช่วยเหลือที่เขาทำงานอยู่ด้วยแถลงออกมาเมื่อวานนี้(5)
       
       ปาฆาเรส ถูกกักตัวเพื่อรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล เซนต์ โจเซฟ ร่วมกับเพื่อนมิชชันนารีอีก 5 คน หลังจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้เพิ่งจะเสียชีวิตลงจากเชื้ออีโบลาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(2)
       
       ปาฆาเรส ทำงานอยู่ในไลบีเรียมานานกว่า 50 ปี โดยในช่วง 7 ปีหลังนี้ได้เข้ามาทำงานกับโรงพยาบาล เซนต์ โจเซฟ
       
       ฆวน ชิอูดัด โอเอ็นจีดี องค์กรบรรเทาทุกข์ของสเปน ระบุว่า สตรีชาวคองโก 1 คน และชาวกินีอีก 1 คน ซึ่งทางโรงพยาบาลกักตัวไว้เพื่อดูอาการ ก็ตรวจพบเชื้ออีโบลาเช่นกัน
ากบทสัมภาษณ์ซึ่งออกอากาศทางสถานีข่าวซีเอ็นเอ็นภาคภาษาสเปนเมื่อวันจันทร์(4) ปาฆาเรส กล่าวว่า เขาและมิชชันนารีคนอื่นๆ ต้องการกลับไปรักษาตัวที่สเปน
       
       “ผมมีอาการไข้ ไม่อยากรับประทานอะไรเลย ผมอยู่เฉยๆ โดยไม่ทานอะไรก็ได้ รู้สึกปวดตามข้อกระดูก และต้องขอให้ผู้อื่นช่วยพยุงเวลาจะไปไหนมาไหน” ปาฆาเรส กล่าว
       
       “เราหวังว่ารัฐบาลจะช่วยอพยพเราออกไป สำหรับเราแล้วการได้กลับสเปนคงเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะมั่นใจได้ว่าเราจะได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ที่เก่ง และคงอาการดีขึ้นหากพระเจ้าทรงประสงค์”
       
       ชาวอเมริกัน 2 คนซึ่งทำงานกับองค์กรคริสต์ในไลบีเรียและติดเชื้ออีโบลาขณะช่วยดูแลผู้ป่วยในกรุงมอนโรเวีย ก็ถูกส่งตัวกลับไปรักษาพยาบาลที่สหรัฐฯ แล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน
       
       จำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกพุ่งสูงกว่า 1,600 รายนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเป็นการแพร่ระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
Picture From  http://en.wikipedia.org/wiki/Ebola_virus_disease#mediaviewer/File:Biosafety_level_4_hazmat_suit.jpg

       
       ยอดผู้เสียชีวิตในเซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย กินี และไนจีเรีย อยู่ที่ 887 ราย ซึ่งคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 55 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO)
       
       ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้ประกาศมอบเงินทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่รัฐบาลกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน เพื่อนำไปใช้สกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ
       
       อีโบลา เป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้ติดเชื้อ ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ป่วย หรือทำหน้าที่รักษาพยาบาล จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น