รอยเตอร์/เอเอฟพี – รัสเซียแถลงซ้อมรบทางทหารใกล้ชายแดนยูเครนเมื่อวันจันทร์(4) ในการแสดงแสนยานุภาพ ท่ามกลางกองทัพเคียฟยึดคืนพื้นที่จากพวกแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกทางภาคตะวันออกของประเทศได้เพิ่มเติม ขณะเดียวกันปฏิบัติการตรวจสอบโศกนาฏกรรมเที่ยวบิน MH17 ก็มีความคืบหน้า มีการลำเลียงศพเหยื่อไปยังเนเธอร์แลนด์เพิ่มเติมและผู้เชี่ยวชาญมาเลเซียเข้าร่วมกับคณะสืบสวนนานาชาติ ณ ที่เกิดเหตุแล้ว
กองทัพอากาศรัสเซียเปิดเผยว่ามีเครื่องบินมากกว่า 100 ลำ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิด จะเข้าร่วมการซ้อมรบในเขตทหารทางภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศในสัปดาห์นี้ ความเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงเหล่าชาติตะวันตกที่กล่าวหามอสโกเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนติดกับยูเครน และสนับสนุนอาวุธแก่กบฏทางตะวันออกของยูเครน แม้เครมลินปฏิเสธคำกล่าวหานี้มาตลอด
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์อ้างคำสัมภาษณ์ของโฆษกกองทัพอากาศระบุว่าการซ้อมรบครั้งนี้รวมถึงทดสอบยิงขีปนาวุธและจะสนับสนุนการประสานงานกันระหว่างการบินพลเรือนและระบบป้องกันขีปนาวุธ พร้อมเผยว่าปฏิบัติการนี้มีเครื่องบินทิ้งระเบิดใหม่ล่าสุดของรัสเซีย Su-24 เช่นเดียวกับเครื่องบินรบ Su-27 และ MiG-31 เข้าร่วมด้วย
รัสเซีย สร้างความผิดหวังแก่ตะวันตก ด้วยจัดซ้อมรบใกล้ชายแดนยูเครนในเดือนมีนาคม หลังความขัดแย้งกับยูเครนปะทุขึ้น จากนั้นในเดือนพฤษภาคม มอสโกอ้างว่าพวกเขาได้ถอนกำลังกลับมาแล้ว แต่พลอากาศเอก ฟิลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังนาโต บอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัสเซียยังคงมีกำลังพลมากกว่า 12,000 นายและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากอยู่ในแถวหน้า
วิกฤตคราวนี้ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าจัดฉากเหตุการณ์ต่างๆในยูเครน ด้วยสหรัฐฯและสหภาพยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียมาแล้วหลายรอบ
เหตุสู้รบดุเดือดขึ้นนับตั้งแต่ชาติตะวันตกกล่าวหาฝ่ายกบฏยิงเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ตกเมื่อเดือนที่แล้ว คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 298 คน ส่วนรัสเซียและพวกแบ่งแยกดินแดนกล่าวโทษโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่าเป็นเพราะปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพยูเครน
การสู้รบเป็นอุปสรรคขัดขวางผู้เชี่ยวชาญเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย ในการเข้าถึงเศษซากของเที่ยวบิน MH17 ที่ถูกยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งถูกยึดครองโดยฝ่าบกบฏ แต่หลังจากใช้ความพยายามหลายวัน พวกเขาก็สามารถเข้าถึงพื้นที่ จนสามารถเก็บกู้ศพและข้าวของของผู้เสียชีวิตได้เพิ่มเติมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ในวันจันทร์(4) รัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่าเครื่องบินซึ่งบรรทุกศพเหยื่อเที่ยวบิน MH17 ชุดล่าสุดที่ค้นพบโดยปฏิบัติการค้นหา ได้มุ่งหน้าสู่เนเธอร์แลนด์แล้ว โดยศพเหล่านี้ถูกลำเลียงไปพร้อมกับดีเอ็นเอและข้าวของของเหยื่อ หลังจากก่อนหน้านี้พวกมันถูกเก็บไว้ในเมืองโดเนตสก์มาสักระยะแล้ว
ก่อนหน้านี้ มีโลงศพที่ถูกลำเลียงไปยังเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด 227 โลง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนระบุเอกลักษณ์บุคคล แต่เปียเตอร์-ยาฟ อัลเบอร์สเบอร์ก เจ้าหน้าที่ตำรวจเนเธอร์แลนด์ที่ถูกเข้ามายังยูเครนเพื่อคุ้มกันภารกิจนี้บอกเมื่อวันอาทิตย์(3) ว่า “เราคาดหมายว่าจะมีเที่ยวบินลำเลียงศพไปยังเนเธอร์แลนด์เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้นี้”
เมื่อวันจันทร์(4) เช่นกัน กระทรวงความมั่นคงและยุติธรรมของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่าคณะผู้เชี่ยวชาญมาเลเซียเข้าร่วมกับตำรวจดัตช์และออสเตรเลียเป็นครั้งแรก ขณะที่พวกเขาสอดส่องไปทั่วพื้นที่เพื่อตามหาร่องรอยของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรม MH17
คณะผู้เชี่ยวชาญประสบกับอุปสรรคสั้นๆในการเข้าไปยังจุดตกของเครื่องบิน แต่สุดท้ายก็สามารถผ่านเข้าไปได้ “ภารกิจ ณ จุดตก MH17 กลับมาทำงานได้อีกครั้ง ด้วยคณะผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน” องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป ซึ่งมีหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์ในยูเครนและมีคณะผู้สังเกตการณ์เดินทางไปพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญระบุในทวีตเตอร์ในตอนบ่ายวันจันทร์(4)
อีกด้านหนึ่งในส่วนของรัฐบาลมาเลเซีย ทางรัฐมนตรีคมนาคมโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กเผยว่าศพผู้เสียชีวิตของพลเมืองแดนเสือเหลืองในโศกนาฏกรรมดังกล่าว จะถูกส่งกลับประเทศก็ต่อเมื่อศพเหล่านี้ได้รับการระบุเอกลักษณ์บุคคลและขั้นตอนทางนิติเวชศาสตร์ที่จำเป็นเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น