สถานการณ์ยูเครนน่าเป็นห่วง

รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปวิจารณ์ “ความก้าวร้าว” ของประเทศรัสเซียต่อประเทศยูเครน  และเรียกร้องมอสโคว์ให้ถอนกองกำลังออกจากยูเครน  Catherine Ashton ผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการต่างประเทศจาก EU ได้กล่าวเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคมที่ผ่านมาในช่วงปิดท้ายการพบปะของรัฐมนตรีต่างประเทศที่มิลาน  ว่ารัฐมนตรีทุกคนกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับความก้าวร้าวล่าสุดต่อยูเครนผ่านกองกำลังรัสเซีย

อย่างไรก็ดี รัสเซียปฏิเสธว่ามีกองกำลังอยู่ในยูเครน  หลังการประเมินของ Petro Poroschenko หัวหน้ารัฐบาลยูเครน ประเมินมีทหารต่างประเทศหลายพันคนและรถถังจากต่างประเทศหลายร้อยคัน  เขากล่าวหลังการพบปะกับ José Manuel Barroso  ประธานคณะกรรมาธิการ EU เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคมที่ผ่านมาที่บรัสเซลส์  ว่าซึ่งหมายถึงความเสี่ยงสูงและไม่เพียงสำหรับความปลอดภัยของยูเครนเท่านั้น  หากแต่ทั้งยุโรปด้วย  ตามข้อมูลของนาโต มีทหารรัสเซียกว่า ๑,๐๐๐ นายในยูเครน

หัวหน้ารัฐบาลที่เคียฟคาดหวังว่าผู้นำประเทศและหัวหน้ารัฐบาล จะออกการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซีย  Frank-Walter Steinmeier รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันเตือนถึงความขัดแย้งที่ใช้อาวุธโดยตรงระหว่างยูเครนและรัสเซีย  เขากล่าวที่มิลานว่าหากไม่ระมัดระวังมีอันตรายว่าสภาวการณ์จะพ้นความควบคุมและหากไม่พบ “เครื่องมือ” ที่ใช้ได้ผลก็มีอันตรายว่าต้องประสบกับการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างยูเครนและรัสเซีย  ซึ่งต้องระงับ

Ashton กล่าวว่า EU เรียกร้องรัสเซียต่อไปให้ยุติความไม่เป็นมิตรรวมทั้งคลื่นอาวุธยุทโธปกรณ์และบุคลากรในความขัดแย้งและถอนกองกำลังออกจากยูเครน  เป็นที่ชัดเจนว่าวิกฤตินี้ ไม่มีการแก้ปัญหาทางทหาร  สไตน์ไมเออร์กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่การเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นของนักสู้ การสนับสนุนอาวุธต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนขณะนี้ต้องยุติลง  รัฐมนตรียังพิพากษาการกระทำนองเลือดของกองกำลังก่อการร้ายอิสลาม IS ด้วย  กลุ่มนี้จะดึงทั้งประเทศมาอยู่ในอุ้งมือและทำให้เป็นต้นเหตุของการลุกลามไปทั้งตะวันออกกลาง  ประเทศเยอรมันไม่สามารถหยุดอยู่เพียงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับเหยื่อ