วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

เยเมนป่วน ประธานาธบิบดีลาออกท่ามกลางวิกฤตนักรบยึดเมืองหลวง

ประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ขอลาออกในวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) โฆษกรัฐบาลเผย โยนประเทศแห่งนี้เข้าสู่ความยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น ท่ามกลางวิกฤตนักรบชีอะห์บุกยึดทำเนียบประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอัล อราบิยะห์ รายงานว่ารัฐสภาเยเมนปฏิเสธการลาออกของผู้นำรายนี้ และเตรียมเปิดประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์ (23 ม.ค.)
ฮาดี พันธมิตรของสหรัฐฯ แสดงความประสงค์ลาออกจากตำแหน่งไม่นานหลังจากนายกรัฐมนตรีคาเลด บาฮา เสนอให้รัฐบาลทั้งคณะสละเก้าอี้ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการถูกลากเข้าสู่วงจรการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ คำพูดที่ดูเหมือนจะอ้างถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างนายฮาดีกับกลุ่มมุสลิมชีอะห์หัวรุนแรงฮูธิ ซึ่งเสมือนกักตัวประธานาธิบดีอยู่ภายในบ้านพัก
“เราต้องขอโทษคุณเป็นการส่วนตัวและขอโทษสภาอันทรงเกียรติ รวมถึงประชาชนชาวเยเมน หลังจากเรามาสุดทางแล้ว” โฆษกของฮาดีอ้างถึงหนังสือลาออกของประธานาธิบดีที่ส่งถึงประธานรัฐสภา ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญ
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มเคลื่อนไหวฮูธิ แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจลาออกของประธานาธิบดีฮาดี และเสนอจัดตั้งสภาประธานาธิบดี ที่จะประกอบด้วยกลุ่มต่างๆ ที่นำโดยฮูธิ กองทัพและพรรคการเมืองบางพรรค
“เยเมนกำลังมุ่งหน้าสู่ความมั่นคง เสถียรภาพ ความสงบและความมั่งคั่ง” อาบู อัล-มาเลก ยูเซฟ อัล-ฟิซี แกนนำระดับสูงของกลุ่มฮูธิเขียนบนทวิตเตอร์ พร้อมบรรยายว่าการลาออกครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีของประชาชนชาวเยเมนทุกคน “ผมเสนอให้จัดตั้งสภาประธานาธิบดีแห่งการปฏิวัติและองค์ประกอบทางการเมือง ในนั้นจะมีทั้งทหาร คณะกรรมการความมั่นคงและคณะกรรมการโดยประชาชน เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการปกครองในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่เหลืออยู่”
การตัดสินใจของฮาดี นับเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันจากวันพุธ (21 ม.ค.) ซึ่งเขาบอกว่าพร้อมตอบสนองข้อเรียกร้องของพวกฮูธิที่ขอมีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้นในรัฐธรรมนูญและข้อตกลงต่างๆ ทางการเมือง
ถ้อยแถลงดังกล่าวในวันพุธ (21 ม.ค.) ถือเป็นการคลี่คลายความเห็นต่างที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆระหว่างนายฮาดีกีบพวกฮูธิ ที่ก้าวเข้ามามีอำนาจในเยเมนท่ามกลางแบ่งแยกทางนิกายที่ลุกลามบานปลาย ส่วนหนึ่งของสงครามตัวแทนของซาอุดีอาระเบียและอิหร่านในตะวันออกกลาง
ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความตกตะลึงแก่โลกอาหรับ กองกำลังนักรบชนเผ่าฮูธิบุกยึดกรุงซานาเมื่อเดือนกันยายน จากนั้นก็รุกคืบไปยังภาคกลางและตะวันตกของเยเมน ดินแดนที่มีมุสลิมสุหนี่เป็นชนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ พวกฮูธิต้องการให้นิกายไซดีของชีอะห์ได้รับสิทธิมากขึ้นและอ้างว่าพวกเขาต่อสู้กับการคอร์รัปชัน
พวกฮูธิซึ่งตอนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเยเมน เคยขู่ว่าจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้หากว่าข้อเรียกร้องในรัฐธรรมนูญใหม่ของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนอง
ข้อตกลงที่ลงนามเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ กับพวกฮูธิ เรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ชุดใหม่ จากนั้นนักรบฮูธิก็จะถอนกำลังออกจากเมืองหลวง อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้พวกนักรบก็ยังคงอยู่ในกรุงซานา
เมื่อวันอังคาร (20 ม.ค.) กลุ่มมุสลิมชีอะห์หัวรุนแรงฮูธิ ฉีกสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาล ก่อนก่อเหตุบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีเยเมนในกรุงซานา และยิงปืนใหญ่โจมตีบ้านของประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ซึ่งอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้เช่นเดียวกัน โดยมีรายงานว่านายฮาดีอยู่ในบ้านด้วย แต่เจ้าหน้าที่ของเยเมนยืนยันว่า ประธานาธิบดีปลอดภัย
เหตุปะทะล่าสุดเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากกบฏฮูธิกับรัฐบาลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันจันทร์ (19 ม.ค.) หลังจากปะทะกันอย่างรุนแรงมาหลายวัน โดยฝ่ายฮูธิสัญญาว่าจะถอนกำลังออกจากกรุงซานา ขณะที่รัฐบาลให้คำมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นเอกภาพชุดใหม่ขึ้นมา
ในวันพฤหัสบดี (22 ม.ค.) ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงซานายังคงถูกปิดตาย แม้ว่าสนามบินและท่าเรือในเมืองเอเดน ทางใต้ของประเทศ สามารถกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง หลังต้องปิดไป 1 วัน ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านการรุกรานรัฐบาลนายฮาดีของพวกฮูธิ ส่วนทางตอนกลางกลุ่มชนเผ่าท้องถิ่นเผยว่ากำลังผลักดันนักรบฮูธิออกไปจากจังหวัดมาริบ ซึ่งเป็นฐานการผลิตน้ำมันและไฟฟ้าราวครึ่งหนึ่งของเยเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น