รัฐบาลใหม่หัวแข็งของกรีซในวันพุธ (28ม.ค.) ส่งสัญญาณว่าประเทศแห่งนี้จะละทิ้งมาตรการรัดเข็มขัดทางงบประมาณตามเงื่อนไขของเหล่าเจ้าหน้าที่นานาชาติเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงิน ความเคลื่อนไหวที่กระพือความกังวลว่าอาจเกิดการเผชิญหน้ากับชาติต่างๆ ในยูโรโซนที่ปล่อยกู้ปกป้องเอเธนส์จากภาวะล้มละลาย พร้อมฉุดตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในกรีซดำดิ่ง
นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้าย อเล็กซิส ชีปราส ให้คำจำกัดความพันธสัญญางบประมาณภายใต้ข้อตกลงกู้ยืมของประเทศ คือการบีบคั้นและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ขณะที่รัฐมนตรีคลังก็เรียกข้อตกงดังกล่าวว่า “ความผิดพลาดที่เป็นพิษ”
รัฐบาลชุดก่อนของเอเธนส์ให้สัญญาจะบรรลุเป้าหมายเกินดุลงบประมาณ การเกินดุลที่ไม่นับรวมต้นทุนภาระหนี้ เพื่อให้เงินกู้ยืมของประเทศมีความยั่งยืนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พรรคซีรีซาของนายชีปราสซึ่งคว้าชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ (25 ม.ค.) เคยประกาศระหว่างหาเสียงว่าจะยกเลิกคำสัญญาเหล่านั้น โดยบอกว่าเป้าหมายดังกล่าวไม่สะท้อนความเป็นจริง และรัฐบาลของเขาจะแสวงหาความสมดุลทางงบประมาณแทน
นายซีปราสชี้แจงว่า แทนที่จะใช้เงินไปจ่ายเพื่อลดหนี้ รัฐบาลของเขาจะนำเงินเหล่านั้นมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ “รัฐบาลชุดนี้คือรัฐบาลไถ่บาปทางสังคมและมีภาระหนักอึ้ง” เขาบอกกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก “เราต้องการเจรจาเพื่อขอลดหนี้และยกเลิกเงื่อนไขมาตรการรัดเข็มขัดที่บีบรัดจนหายใจไม่ออก”
อย่างไรก็ตาม ในบรัสเซลส์ นายเยอร์คี คาไตเนน รองประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป คาดหมายว่าทางการกรีซ จะดำเนินการทุกอย่างตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้อย่างครบถ้วน “คณะกรรมาธิการต้องปฏิบัติกับทุกรัฐบาลเหมือนๆ กัน เราคงไม่เปลี่ยนนโยบายอันเนื่องด้วยการเลือกตั้ง”
นายกรัฐมนตรีกรีซบอกว่า รัฐบาลใหม่กำลังแสวงหาข้อเสนอที่ปฏิบัติได้จริงสำหรับจัดการกับเงินกู้ก้อนมหาศาลของกรีซ และแนวทางต่างๆ ในการจัดการกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมจากตัวเลขคนว่างงานอันสูงลิ่วและจำนวนคนยากจนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความเห็นดังกล่าวฉุดให้ดัชนีหลักของตลาดหุ้นกรีซร่วงลงกว่าร้อยละ 7.5 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลก็พุ่งทะยาน ส่งสัญญาณว่านักลงทุนมีความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ ท่ามกลางความคาดหมายว่าการเจรจาระหว่างเอเธนส์กับเหล่าเจ้าหนี้ยูโรโซนคงไม่ราบรื่น เนื่องจากเจ้าหนี้เหล่านั้นแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าต้องการเห็นกรีซยึดมั่นในคำสัญญาปฏิรูป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น