วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

สหรัฐฯ เตือนไทยถอดถอนยิ่งลักษณ์ ถูกมองมีแรงจูงใจทางการเมือง แต่ย้ำไม่เลือกข้าง

เจ้าหน้าที่ทูตระดับสูงของสหรัฐฯเตือนในวันจันทร์(26ม.ค.) ว่าการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจถูกมองว่ามีแรงขับเคลื่อนทางการเมือง พร้อมย้ำอเมริกาไม่เลือกข้างในไทย แต่กำลังสนับสนุนกระบวนการทางการเมืองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
การเดินทางเยือนของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกครั้งนี้ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของวอชิงตันที่เดินทางมายังประเทศไทยนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมปีก่อน ทั้งนี้สหรัฐฯประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุเข้ายึดอำนาจของกองทัพและเรียกร้องซ้ำๆให้คืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร่งด่วน
เมื่อวันจันทร์(19ม.ค.) นายแดเนียล ที่เดินทางเยือนไทยในส่วนหนึ่งของโปรแกรมทัวน์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้พบปะกับนางสาวยิ่งลักษณ์ นอกจากนี้เขายังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและตัวแทนประชาคมต่างๆในเมืองหลวงอีกด้วย
ระหว่างการปราศัยที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ“บทบาทของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในปี 2015” 3 วันหลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอดโดยสภาที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะทหารและอัยการแถลงสั่งฟ้องคดีอาญาที่อาจเห็นอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงต้องติดคุกนานถึง 10 ปี นายแดเนียล กล่าวว่า “การรับรู้ความยุติธรรมคือสิ่งสำคัญ เมื่อผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งถูกถอดถอนโดยสภาที่เป็นเครื่องมือของรัฐประหาร จากนั้นก็ถูกเล่นงานด้วยคดีอาญา ท่ามกลางความชะงักงันของสถาบันและกระบวนการประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน นานาชาติจะเริ่มสงสัยว่าก้าวย่างต่างๆเหล่านี้อาจมีแรงผลักดันทางการเมือง”
อย่างไรก็ตามนายแดเนียล ยืนยันว่าสหรัฐฯไม่ได้เลือกข้างในการเมืองไทย แต่กำลังสนับสนุนกระบวนการทางการเมืองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้นยังย้ำถึงข้อเรียกร้องของอเมริกาที่หวังเห็นไทยยกเลิกกฎอัยการศึกและข้อจำกัดต่างๆด้านสิทธิการแสดงออกและสิทธิในการชุมนุม
นับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจ กองทัพได้ระงับประชาธิปไตยและจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงออกในประเทศ รวมถึงตอบโต้อย่างก้าวร้าวต่อรูปแบบการประท้วงใดๆ ตามคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองภายใต้กฎอัยการศึก ส่วนวอชิงตันระงับเงินช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแก่ไทย 4.7 ล้านดอลลาร์ ราวๆครึ่งหนึ่งของเงินช่วยเหลือรายปีที่มอบให้พันธมิตรเก่าแก่แห่งนี้ในมาตรการตอบโต้เหตุรัฐประหาร
นอกจากนี้แล้วในเบื้องต้น สหรัฐฯยังพิจารณาย้ายซ้อมรบร่วมประจำปีออกไปจากประเทศไทย ทว่าในเวลาต่อมาอเมริกา กลับลำเดินหน้าซ้อมรบร่วมที่มีกำหนดเริ่มขึ้นในเดือนหน้า เพียงแต่ปรับลดระดับลงมาเท่านั้น
โฆษกสถานทูตสหรัฐฯยืนยันว่านายแดเนียล ไม่ได้พบปะกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณรัฐประหารซึ่งเวลานี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างการเยือนครั้งนี้ ขณะที่เขามีกำหนดเดินทางถึงกรุงพนมเปญในช่วงค่ำวันจันทร์(26ม.ค.) ในโปรแกรมเยือนกัมพูชาเป็นชาติต่อไป
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างพวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าการถอดถอนและดำเนินคดีอาญาต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยและน้องสาวของทักษิณ ชินวัตร เป็นความพยายามล่าสุดของคนชั้นสูงของประเทศและเหล่าทหารผู้ให้การสนับสนุน ในการกำจัดอิทธิพลทางการเมืองของตระกูลชินวัตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น