วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ชะตากรรมตัวประกันISแขวนบนเส้นด้าย ญี่ปุ่นคุยจอร์แดนไม่คืบ

ผู้แทนทูตของญี่ปุ่นเดินทางออกจากโต๊ะหารือในจอร์แดนเมื่อวันจันทร์(26ม.ค.) ด้วยไม่พบเห็นสัญญาณความก้าวหน้าใดๆในการช่วยเหลือพลเรือนแดนปลาดิบอีกคนที่ถูกกลุ่มไอเอสจับตัวประกัน หลังจากก่อนหน้านี้พวกนักรบไอเอสฆ่าตัดคอตัวประกันชาวญี่ปุ่นคนแรกไปแล้ว หลังผ่านเส้นตาย 72 ชั่วโมง
เหล่าเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นปฏิเสธแสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อเนื้อหาของการเจรจาในจอร์แดน ท่ามกลางความมุมานะของนายยาสึฮิเดะ นากายามา รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังประสานงานความพยายามระดับภูมิภาคในการช่วยตัวประกันเคนจิ โกโตะ ผู้สื่อข่าวอิสระ
กบฏไอเอสเผยแพร่วิดีโอทางออนไลน์เมื่อวันที่ 20 มกราคม ระบุว่าได้จับชาวญี่ปุ่น 2 คนเป็นตัวประกันและจะฆ่าทั้งคู่หากญี่ปุ่นไม่ยอมจ่ายค่าไถ่จำนวน 200 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 72 ชั่วโมง อันเป็นจำนวนเงินเดียวกับที่โตเกียวประกาศสนับสนุนปฏิบัติการนานาชาติกำราบนักรบกลุ่มนี้
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกไอเอสแพร่วิดีโอชุดใหม่ที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ เป็นภาพนิ่งของนายโกโตะ วัย 47 ปี ถือรูปถ่ายที่น่าเชื่อว่าเป็นภาพศพของนายฮารุนะ ยูกาวะ ตัวประกันอีกคน โดยคลิปยังมีบันทึกเสียงพูดที่อ้างว่าเป็นนายโกโตะ บอกว่าตอนนี้พวกที่จับกุมตัวเขาต้องการเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นขอให้ปล่อยตัวนักโทษคนหนึ่งที่ถูกคุมขังในจอร์แดนแทนเงินค่าไถ่
        หลังถูกถามว่าข้อเรียกร้องใหม่นี้ทำให้สถานการณ์ยุ่งยากซับซ้อนกว่าเดิมหรือไม่ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าทีมโฆษกรัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามตรงๆ เพียงต่อบอกว่า “แน่นอนว่า จอร์แดน มีความคิดเป็นของตนเอง รัฐบาลกำลังทำอย่างสุดความสามารถขณะที่สถานการณ์ยังคงดำเนินไป” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว “เรากำลังแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายเท่าที่จะเป็นไปได้ในความพยายามมอบอิสรภาพแก่ตัวประกันที่เหลืออยู่”
อย่างไรก็ตามในกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน นายนากายามา ออกจากโต๊ะปรึกษาหารือโดยที่ไม่รายงานความคืบหน้าใหม่ๆใดๆ “สืบเนื่องจากลักษณะของปัญหานี้ กรุณาเข้าใจด้วยว่าผมไม่สามารถเปิดเผยว่าผมหารือกับใคร “เขากล่าว กระนั้นเขาประกาศว่าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถึงจุดลงเอย
สำนักข่าวเอพีบอกว่าไม่สามารถยืนยันเนื้อหาของวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแตกต่างจากคลิปก่อนๆของพวกไอเอสที่ตอนนี้ยึดครองพื้นที่คร่อมซีเรียและอิรักได้ราวๆ 1 ใน 3 อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่มันอาจเป็นของจริง
ผู้คนบางส่วนในญี่ปุ่น ตำหนิชายทั้ง 2 คนที่พาตนเองไปเสี่ยง บางส่วนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าการแสวงหานโยบายต่างประเทศเชิงรุกมากขึ้นของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดวิกฤตครั้งนี้
อาเบะ พยายามผลักดันขยายบทบาททางทหาร ที่ตอนนี้ยังคงถูกจำกัดให้เป็นเพียงกองกำลังปกป้องตนเองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพที่ถูกบังคับใช้หลังจากพวกเขาพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ระหว่างเยือนตะวันออกกลางเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีรายนี้แถลงมอบเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประเทศต่างๆที่กำลังต่อสู้กับพวกนักรบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น