เมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) นิตยสารไทม์ ประกาศยกย่องคณะแพทย์และพยาบาลที่กำลังช่วยรักษาผู้ติดเชื้อโรคระบาดอีโบลา เป็น “บุคคลแห่งปีประจำปี 2014” ด้วยสรรเสริญความมีเมตตาและความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับโวรัสมรณะที่คร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 6,300 ศพ
จากจุดเริ่มแค่ไข้เลือดออก อีโบลาลุกลามสู่การแพร่ระบาดรุนแรงในไลบีเรีย กินีและเซียร์ราลีโอน ขณะเดียวกันก็พบผู้ติดเชื้อกระจัดกระจายในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไนจีเรีย มาลี สเปน เยอรมนีและสหรัฐฯ
“ที่โลกยังสามารถหลับใหลได้ในยามค่ำคืน ก็เพราะกลุ่มสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเหล่านี้มีความตั้งมั่นและยืนหยัดต่อสู้” แนนซี กิบบ์ส บรรณาธิการของไทม์ส ระบุระหว่างประกาศผลรางวัลประจำปี “สำหรับความกล้าหาญและความเมตตาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สำหรับการซื้อเวลาให้โลกเสริมแนวป้องกันตนเอง สำหรับความเสี่ยง สำหรับความอดทน เสียสละตนเองเพื่อปกป้องผู้อื่น เหล่านักสู้อีโบลาจึงเป็นบุคคลแห่งปีประจำปี 2014ของไทม์”
การแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วมากกว่า 6,300 ศพ โดยเกือบทั้งหมดอยู่ในเซียร์ราลีโอน กีนี และไลบีเรีย 3 ชาติในอัฟริกาตะวันตก ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ด้วยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ถึง 592 คน เสียชีวิตแล้ว 340 ราย
ไทม์บอกว่า อีโบลาเล่นงานแพทย์และพยาบาลในจำนวนอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน รวมถึงยังก่อกัดเซาะระบบโครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุขที่แต่เดิมก็อ่อนแออยู่ก่อนแล้ว
นีน่า ฟาม พยาบาลเทกซัส ซึ่งติดเชื้ออีโบลาจากการดูแลผู้ป่วยอีโบลาคนแรกที่แสดงอาการในแผ่นดินสหรัฐฯ บอกว่าเธอรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรางวัลอันทรงเกียรตินี้
เมื่อวันอังคาร (9 ธ.ค.) เดวิด นาร์บาโร ผู้ประสานงานวิกฤติอีโบลาของสหประชาชาติ แสดงความยินดีที่การต่อสู้กับไวรัสมรณะมีความก้าวหน้าอย่างกว้างขวาง แต่ก็เตือนว่าการแพร่ระบาดยังคงผันผวนทางภาคตะวันตกของเซียร์ราลีโอนและทางเหนือของกินี พร้อมบอกว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเสริมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้าไปยังพื้นที่ต่างๆที่การแพร่ระบาดยังแผ่ลามอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับจัดตั้งศูนย์รักษาและเสริมเตียงคนไข้เพิ่มเติม
บรรณาธิการของไทม์สบอกว่า รัฐบาลชาติต่างๆ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่เพียงพอตอบสนองต่อวิกฤตนี้และการขอความช่วยเหลือครั้งแรกๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ คำกล่าวอ้างที่ทางองค์การอนามัยโลกปฏิเสธ “มันคือบททดสอบความสามารถของโลกในการตอบสนองต่อโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น และผลที่ออกมาดูไม่ดีนัก มันเผยให้เห็นการคอร์รัปชันในรัฐบาลชาติต่างๆของแอฟริกา ที่อิ่มเอมกับเงินทุนตะวันตกและความริษยาในหมู่ข้าราชการที่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน” กิบบ์สระบุ
อย่างไรก็ตาม กิบบ์ส ยกย่องบุคคลในภาคสนามขององค์กรการกุศลต่างๆ อย่างเช่นองค์การแพทย์ไร้พรมแดน เช่นเดียวกับคณะแพทย์และพยาบาลท้องถิ่น คนขับรถฉุกเฉินและทีมฝังศพ ที่เป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับอีโบลา “อีโบลาคือสงครามและเป็นสัญญาณเตือน ระบบสาธารณสุขโลกไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะปกป้องเราให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อร้ายแรง”
สำหรับอันดับ 2 ในปีนี้ ไทม์เลือกเหล่าผู้ประท้วงที่รวมตัวกันบนท้องถนนในย่านเฟอร์กูสัน ชานเมืองเซนต์หลุยส์ เพื่อประณามเหตุตำรวจผิวขาวรายหนึ่งยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีที่ไม่มีอาวุธเสียชีวิต ส่วนคนดังอื่นๆที่ติดอันดับมาก็มี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย มัสซูด บาร์ซานี ประธานาธิบดีเขตปกครองตนเองของชาวเคิร์ด และแจ็ก หม่า มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ “อาลีบาบา”
ผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น