วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แข่งขันด้วยการลดราคาตั๋วถูก

การเดินทางใช้เวลานานหกชั่วโมงครึ่งจากฮัมบวร์กไปโคโลญน์  มากกว่า ๒ ชั่วโมงจาก Nürnberg ไป München แต่สามารถใช้นานกว่านี้ได้อย่างชัดเจน  ผู้โดยสารไม่มีทางรู้ล่วงหน้า  ผู้ที่เดินทางด้วยรถโดยสารทางไกลต้องเตรียมเผื่อเวลา  เนื่องจากในเส้นทางที่สำคัญทุก ๑ ใน ๒ ขบวนไปถึงที่หมายล่าช้ากว่าที่ควร
ทั้งนี้ เป็นผลจากการสุ่มทดสอบของสโมสรการจราจรเยอรมัน (VCD)  ส่วนใหญ่เนื่องจากการจราจรติดขัดหรือเนื่องจากรถออกช้ากว่ากำหนด  Michael Ziesack ประธาน  VCD เรียกร้องว่าตารางการเดินทางของผู้ให้บริการรถโดยสารทางไกลต้องทำให้ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น  VCD ได้ส่งผู้ทดสอบไปนั่งรถโดยสาร  ซึ่งตามความเป็นจริงให้คะแนนดี เช่น สำหรับบุคลากร  คนขับ ๔ จาก ๕ คนได้รับคะแนน ๑ หรือ ๒  เช่นเดียวกันกับให้คะแนนกับภายในรถที่ส่วนใหญ่ใหม่และมี WLAN  สถานีขนส่งก็ได้รับคะแนนใช้ได้  Ziesack มีความเห็นว่าลูกค้าพอใจกับสถานีขนส่งใหญ่ ๆ  แต่ในเมืองขนาดกลางจำนวนมากต้องมีการปรับปรุง  ในเรื่องความตรงเวลายังไม่ถูกใจ  ๕๒% ของรถโดยสารมาถึงหลังเวลาที่วางแผนไว้อย่างน้อย ๖ นาที
สมาคมบริษัทรถโดยสารเยอรมันให้ข้อมูลที่แย้งกับ VCD ว่า ๘๐% ของรถโดยสารทางไกลตรงเวลา  โดยบ่งชี้ตัวเลขของ Stiftung Warentest จากฤดูร้อนที่ให้คะแนนการตรงเวลา ๘๐% ว่า “ดีอย่างน่ายินดี”   แต่ผู้ทดสอบของ Warentest ก็เดินทางเพียงในเส้นทางที่เลือกไว้  โดยให้คะแนนเพียงการเดินทาง ๓๖๐ เที่ยว  แต่ทั่วประเทศมีการเดินทางราว ๗,๕๐๐ เที่ยวต่อสัปดาห์  ผู้โดยสารรถขนส่งมวลชน ยอมรับว่าในความล่าช้ามีสิทธิด้อยกว่าการโดยสารรถไฟ  การรถไฟ ฯ จ่ายค่าเสียหายตั้งแต่ในการล่าช้า ๑ ชั่วโมง  ส่วนผู้ให้บริการรถโดยสารจ่ายหลังการล่าช้าตั้งแต่ ๒ ชั่วโมงขึ้นไป  แต่การล่าช้านานขนาดนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น
ในการทดสอบของ Stiftung Warentest รถโดยสาร ๓% มาถึงช้ากว่ากำหนดนานกว่าครึ่งชั่วโมง  ตามการสอบถาม ๔๔% ของลูกค้ารถโดยสารให้ความสำคัญกับความเชื่อถือได้และความตรงเวลา  มากกว่าในรถไฟ (๒๘%) ในรถโดยสารทางไกลราคาสำคัญกว่าอย่างอื่นทั้งหมด  ดังนั้น ๓ ใน ๔ ของผู้ถูกสอบถามจึงเลือกรถโดยสาร  เฉลี่ย ๕.๘๔ ยูโรจาก München ไป Nürnberg  หรือ ๑๖.๖๖ ยูโรจากฮัมบวร์กไปโคโลญน์  รถไฟไม่สามารถแข่งขันได้
ดังนั้น ในปี ๒๐๑๓ ประชาชน ๙ ล้านคนจึงโดยสารรถขนส่งมวลชนทางไกล  ในปีนี้อาจเพิ่มมากกว่านี้สองเท่า  การรถไฟ ฯ ที่ในปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารในการคมนาคมทางไกล ๑๓๑ ล้านคน   ในยุทธการแข่งขันนี้เพื่อจะดึงลูกค้าได้  โดยงดการขึ้นราคาในชั้น ๒ เตรียมให้ใช้ WLAN ฟรีในรถไฟ  และทดลองในเส้นทางระหว่างฮัมบวร์กและเบอร์ลินด้วยรถไฟ Interregio-Express ในราคาไปกลับเพียง ๓๐ ยูโร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น